ปิดโฆษณา

สิ่งที่รอคอยมานานอยู่ที่นี่ วันนี้ Apple เปิดตัว iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ใหม่ควบคู่ไปกับ iPhone 11 สิ่งเหล่านี้คือผู้สืบทอดโดยตรงของ iPhone XS และ XS Max ในปีที่แล้ว ซึ่งได้รับกล้องสามตัวพร้อมการปรับปรุงต่างๆ มากมาย ตัวเลือกการบันทึกวิดีโอใหม่ โปรเซสเซอร์และชิปกราฟิกที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ตัวเครื่องทนทานยิ่งขึ้น Face ID ที่ได้รับการปรับปรุง และสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุด การปรับเปลี่ยนดีไซน์รวมถึงสีใหม่

ข่าวมีหลากหลายจึงขอสรุปให้ชัดเจนเป็นประเด็นๆ ดังนี้

  • iPhone 11 Pro จะมีจำหน่ายในสองขนาดอีกครั้ง โดยมีหน้าจอขนาด 5,8 นิ้วและ 6,5 นิ้ว
  • ตัวแปรสีใหม่
  • โทรศัพท์มีจอแสดงผล Super Retina XDR ที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งประหยัดกว่า รองรับ HDR10, Dolby Vison, มาตรฐาน Dolby Atmos ให้ความสว่างสูงถึง 1200 nits และอัตราส่วนคอนทราสต์ 2000000:1
  • โปรเซสเซอร์ Apple A13 ใหม่ ซึ่งผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ชิปเร็วขึ้น 20% และประหยัดมากขึ้นถึง 40% มันเป็นโปรเซสเซอร์ที่ดีที่สุดในโทรศัพท์
  • iPhone 11 Pro มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานกว่า iPhone XS ถึง 4 ชั่วโมง iPhone 11 Pro Max ใช้งานได้นานขึ้น 5 ชั่วโมง
  • อะแดปเตอร์ที่ทรงพลังยิ่งขึ้นสำหรับการชาร์จที่รวดเร็วจะรวมอยู่ในโทรศัพท์
  • iPhone 11 Pro ทั้งสองมีการตั้งค่ากล้องสามตัวที่ Apple เรียกว่า "กล้องมืออาชีพ"
  • มีเซ็นเซอร์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลสามตัว ได้แก่ เลนส์มุมกว้าง เลนส์เทเลโฟโต้ (52 มม.) และเลนส์มุมกว้างพิเศษ (มุมมอง 120°) ตอนนี้คุณสามารถใช้การซูม 0,5 เท่าเพื่อจับภาพฉากที่กว้างขึ้นและเอฟเฟ็กต์มาโครได้แล้ว
  • กล้องมีฟังก์ชัน Deep Fusion ใหม่ ซึ่งจะถ่ายภาพแปดภาพระหว่างการถ่ายภาพ และรวมภาพเหล่านั้นทีละพิกเซลให้เป็นภาพคุณภาพสูงภาพเดียวด้วยความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์ และยังมีฟังก์ชั่น Smart HDR ที่ได้รับการปรับปรุงและแฟลช True Tone ที่สว่างยิ่งขึ้น
  • ตัวเลือกวิดีโอใหม่ โทรศัพท์สามารถบันทึกภาพ 4K HDR ที่ 60 fps เมื่อบันทึก ให้ใช้โหมดกลางคืน ซึ่งเป็นโหมดสำหรับถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงแม้ในที่มืด รวมถึงฟังก์ชันที่เรียกว่า "ซูมเสียง" เพื่อระบุแหล่งกำเนิดเสียงได้อย่างแม่นยำ
  • ปรับปรุงการกันน้ำ - ข้อกำหนด IP68 (ความลึกสูงสุด 4 เมตร เป็นเวลา 30 นาที)
  • ปรับปรุง Face ID ซึ่งสามารถตรวจจับใบหน้าได้แม้จากมุมหนึ่ง

iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max จะพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่ 13 กันยายนนี้ การขายจะเริ่มในอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาในวันศุกร์ที่ 20 กันยายน ทั้งสองรุ่นจะมีจำหน่ายในรุ่นความจุสามรุ่น – 64, 256 และ 512 GB และมีสามสี – สีเทาสเปซเกรย์ สีเงิน และสีทอง ราคาในตลาดสหรัฐอเมริกาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สำหรับรุ่นเล็ก และ 1099 ดอลลาร์สำหรับรุ่น Max

ไอโฟน 11 โปร FB
.