ปิดโฆษณา

Apple กลายเป็นผู้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ที่สุดในอเมริกาตามข้อมูลที่เผยแพร่ใหม่ ทั้งนี้เป็นไปตามการวิจัยของสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ในบรรดาบริษัทอเมริกันทั้งหมด Apple มีทั้งกำลังการผลิตที่ใหญ่ที่สุดและการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สูงสุด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทขนาดใหญ่ในอเมริกาหันมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อขับเคลื่อนสำนักงานใหญ่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหรืออาคารสำนักงานธรรมดา ผู้นำในทิศทางนี้คือ Apple ซึ่งใช้พลังงานจากแหล่งหมุนเวียนล้วนๆ ในสำนักงานใหญ่ในอเมริกาทุกแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่มาจากพลังงานแสงอาทิตย์

ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Apple เป็นผู้นำในการจัดอันดับบริษัทต่างๆ ในด้านกำลังการผลิตไฟฟ้าสูงสุด ตามมาด้วยยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ เช่น Amazon, Walmart, Target หรือ Switch

การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ของ Apple
มีรายงานว่า Apple มีกำลังการผลิตสูงถึง 400 MW ในโรงงานต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา พลังงานแสงอาทิตย์หรือ ทรัพยากรหมุนเวียนโดยทั่วไปจะเป็นประโยชน์สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ในระยะยาว เนื่องจากการใช้ทรัพยากรดังกล่าวช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน แม้ว่าการลงทุนเริ่มแรกจะไม่ต่ำก็ตาม เพียงแค่มองไปที่หลังคาของ Apple Park ซึ่งแทบจะปิดด้วยแผงโซลาร์เซลล์ Apple ผลิตไฟฟ้าได้มากต่อปีจนสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้มากกว่า 60 หมื่นล้านเครื่อง
คุณสามารถดูที่ตั้งศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์ของ Apple ได้จากแผนที่ด้านบน Apple ผลิตไฟฟ้าได้มากที่สุดจากรังสีดวงอาทิตย์ในแคลิฟอร์เนีย ตามมาด้วยออริกอน เนวาดา แอริโซนา และนอร์ทแคโรไลนา

เมื่อปีที่แล้ว Apple อวดดีถึงความสำเร็จครั้งสำคัญเมื่อบริษัทประสบความสำเร็จในการจ่ายไฟให้กับสำนักงานใหญ่ทุกแห่งทั่วโลกด้วยความช่วยเหลือจากพลังงานหมุนเวียน บริษัทพยายามที่จะดูแลสิ่งแวดล้อม แม้ว่าการกระทำบางอย่างของบริษัทจะไม่สะท้อนถึงสิ่งนี้เป็นอย่างดี (เช่น ความไม่สามารถซ่อมแซมได้ของอุปกรณ์บางอย่าง หรือการไม่สามารถรีไซเคิลได้ของอุปกรณ์อื่นๆ) เช่น ระบบสุริยะบนหลังคา Apple Park มีกำลังการผลิต 17 MW ร่วมกับโรงงานก๊าซชีวภาพที่มีกำลังการผลิต 4 MW ด้วยการดำเนินงานจากแหล่งหมุนเวียน Apple "ประหยัด" มากกว่า 2,1 ล้านลูกบาศก์เมตรของ CO2 ต่อปีซึ่งหากไม่เช่นนั้นจะถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศ

แหล่งที่มา: Macrumors

.