ปิดโฆษณา

เมื่อวานนี้ Corning ผู้ผลิต Gorilla Glass ได้เปิดตัวกระจกแข็งเจเนอเรชันใหม่ที่เรียกว่า Gorilla Glass 4 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าซึ่งสามารถพบได้ใน iPhones 6 และ 6 Plus ใหม่ เป็นต้น ก็ควรมีความต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่า อย่างที่เคยเป็นทุกปี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ Corning มุ่งเน้นไปที่ปัญหาที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความเสียหายที่พบบ่อยมากต่อจอแสดงผล นอกเหนือจากรอยขีดข่วนแล้ว ส่วนใหญ่แล้วยังมีความเสียหายเนื่องจากการตกหล่นอีกด้วย ด้วยการศึกษาสาเหตุและวิธีที่กระจกแตกอย่างถี่ถ้วน Corning จึงสามารถคิดค้นวัสดุที่ทนทานต่อการแตกเป็นสองเท่าของโซลูชันอื่นๆ ในตลาด รวมถึง Gorilla Glass 3

นักวิจัยของ Corning ได้ตรวจสอบอุปกรณ์ที่เสียหายหลายร้อยชิ้น และพบว่าความเสียหายที่เกิดจากการสัมผัสของคมมีสาเหตุมาจากความล้มเหลวในภาคสนามมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ นักวิจัยได้พัฒนาวิธีทดสอบการตกของโทรศัพท์แบบใหม่ โดยจำลองเหตุการณ์กระจกแตกในโลกแห่งความเป็นจริง โดยอาศัยการวิเคราะห์หลายพันชั่วโมงของกระจกที่แตกในสนามหรือในห้องแล็บ

Corning จำลองการวางโทรศัพท์ลงบนพื้นผิวแข็งโดยใช้กระดาษทราย โดยอุปกรณ์ตกลงมาจากความสูง 80 เมตร จากผลการวิจัยพบว่า Gorilla Glass รุ่นที่สี่สามารถทนต่อการตกได้ XNUMX เปอร์เซ็นต์ กล่าวคือ โดยไม่ทำให้กระจกแตกหรือสร้างใยแมงมุม แม้จะไม่ใช่กระจกที่ไม่แตกหักทั้งหมด แต่เป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในแง่ของวัสดุ ซึ่งอาจช่วยประหยัดโทรศัพท์ของเรา หรืออย่างน้อยก็เปลี่ยนจอแสดงผลที่มีราคาแพง

บริษัทคำนวณว่าโทรศัพท์เครื่องแรกที่มี Gorilla Glass 4 น่าจะปรากฏแล้วในไตรมาสนี้ และเราอาจจะเห็นมันใน iPhone รุ่นต่อไป Apple ใช้ Gorilla Glass มาตั้งแต่โทรศัพท์รุ่นแรก ในอดีตมีรายงานว่า Apple สามารถเปลี่ยนกระจกนิรภัยเป็นแซฟไฟร์ได้เนื่องจาก ความผิดพลาดของ GT Advanced สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้

Corning ยังคงต้องการปรับปรุงความต้านทานการตกกระแทก อย่างไรก็ตาม ยังมี 20% ของกรณีที่แม้แต่ Gorilla Glass รุ่นที่สี่จะพัง และความสามารถในการอ่านของจอแสดงผลเมื่ออยู่กลางแดดยังคงเป็นพื้นที่ที่นวัตกรรมที่สำคัญสามารถเกิดขึ้นได้ นี่คือดนตรีแห่งอนาคตในตอนนี้ แต่สำหรับตอนนี้เราไม่ต้องกังวลมากนักเกี่ยวกับการล้มที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ใช้ทั่วไปคาดหวังจากจอแสดงผลสมัยใหม่ มีความทนทานมากขึ้นสำหรับการควบคุมที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น

[youtube id=8ObyPq-OmO0 width=”620″ height=”360″]

แหล่งที่มา: Verge
.