ปิดโฆษณา

Apple มาถึงเหตุการณ์สำคัญที่น่าสนใจในช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม 2010 ในเวลานั้นบริษัทสามารถแซงหน้าคู่แข่งอย่าง Microsoft ได้ และกลายเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับสองของโลก

ทั้งสองบริษัทดังกล่าวมีความสัมพันธ์ที่น่าสนใจมากในช่วงทศวรรษที่ 80 และ 90 ของศตวรรษที่ผ่านมา พวกเขาถือเป็นคู่แข่งและเป็นคู่แข่งกันโดยคนส่วนใหญ่ ทั้งสองได้สร้างชื่อที่แข็งแกร่งในด้านเทคโนโลยี ทั้งผู้ก่อตั้งและกรรมการที่รู้จักกันมานานต่างก็อายุเท่ากัน ทั้งสองบริษัทยังประสบกับช่วงเวลาขึ้นๆ ลงๆ แม้ว่าแต่ละตอนจะไม่ตรงเวลาก็ตาม แต่การที่ Microsoft และ Apple มองว่าเป็นคู่แข่งกันอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด เนื่องจากมีหลายครั้งในอดีตที่พวกเขาต้องการกันและกัน

เมื่อ Steve Jobs ต้องลาออกจาก Apple ในปี 1985 John Sculley ซีอีโอในขณะนั้นพยายามทำงานร่วมกับ Microsoft ในด้านซอฟต์แวร์สำหรับ Mac เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ใช้สิทธิเทคโนโลยีบางส่วนสำหรับคอมพิวเตอร์ของ Apple ซึ่งเป็นข้อตกลงที่สุดท้ายแล้วกลับไม่เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการของ Apple ทั้งสองบริษัทมีจินตนาการแต่แรกเริ่ม ในช่วงทศวรรษที่ XNUMX และ XNUMX Apple และ Microsoft สลับกันเป็นจุดสนใจของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ในช่วงกลางทศวรรษที่ XNUMX ความสัมพันธ์ร่วมกันของพวกเขามีมิติที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง - Apple กำลังเผชิญกับวิกฤติร้ายแรงและสิ่งหนึ่งที่ช่วยได้อย่างมีนัยสำคัญในเวลานั้นคือการอัดฉีดทางการเงินจาก Microsoft อย่างไรก็ตาม เมื่อสิ้นสุดยุค XNUMX สิ่งต่างๆ ก็พลิกผันอีกครั้ง Apple กลายเป็นบริษัทที่ทำกำไรได้อีกครั้ง ในขณะที่ Microsoft ต้องเผชิญกับคดีต่อต้านการผูกขาด

ณ สิ้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 1999 ราคาหุ้นของ Microsoft อยู่ที่ 53,60 ดอลลาร์ ในขณะที่อีกหนึ่งปีต่อมาก็ลดลงเหลือ 20 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน สิ่งที่ไม่ได้ลดลงอย่างแน่นอนในช่วงสหัสวรรษใหม่คือมูลค่าและความนิยมของ Apple ซึ่งบริษัทเป็นหนี้กับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ตั้งแต่ iPod และ iTunes Music ไปจนถึง iPhone ไปจนถึง iPad ในปี 2010 รายได้จากอุปกรณ์พกพาและบริการเพลงของ Apple เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของรายได้ของ Mac ในเดือนพฤษภาคมของปีนี้ มูลค่าของ Appel เพิ่มขึ้นเป็น 222,12 พันล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Microsoft อยู่ที่ 219,18 พันล้านดอลลาร์ บริษัทเดียวที่สามารถอวดมูลค่าที่สูงกว่า Apple ในเดือนพฤษภาคม 2010 คือ Exxon Mobil ซึ่งมีมูลค่า 278,64 พันล้านดอลลาร์ แปดปีต่อมา Apple สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดมหัศจรรย์ที่มีมูลค่าถึงหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ได้

.